ฟังก์ชัน mysql_pconnect() ของ PHP

การประกาศและวิธีใช้

ฟังก์ชัน mysql_pconnect() จะเปิดการเชื่อมต่อสู่ MySQL ซีเวอร์อย่างถาวร

mysql_pconnect() และ mysql_connect() มีความคล้ายกันมาก แต่มีความแตกต่างสองจุดหลัก:

  1. เมื่อเชื่อมต่อ ฟังก์ชันนี้จะพยายามหาการเชื่อมต่อ (ที่คงเปิด) ที่เปิดแล้วในเครื่องเดียวกัน ด้วยชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านเดียวกัน หากพบ จะคืนค่าไอดีการเชื่อมต่อนี้แทนที่จะเปิดการเชื่อมต่อใหม่
  2. เมื่อบรรทัดบทความปิดท้าย การเชื่อมต่อไปยัง SQL ซีเวอร์จะไม่ถูกปิด การเชื่อมต่อนี้จะคงเปิดเพื่อใช้ในอีกครั้งต่อไป (mysql_close() จะไม่ปิดการเชื่อมต่อที่สร้างโดย mysql_pconnect())。

วิธีใช้

mysql_pconnect(server,user,pwd,clientflag)
ประกาศ การอธิบาย
server

เลือกตั้ง

สามารถรวมหมายเลขพอร์ต ตัวอย่างเช่น "hostname:port" หรือ รายละเอียดเส้นทางสำหรับอุปกรณ์ระหว่างคอมพิวเตอร์ท้องถิ่น ตัวอย่างเช่น ":/path/to/socket" สำหรับ localhost。

ถ้าคำสั่ง mysql.default_host ไม่ได้ถูกกำหนด (เป็นข้อเริ่มต้น) จะมีค่าเริ่มต้นคือ 'localhost:3306'

user ชื่อผู้ใช้
pwd พาสเวิร์ด
clientflag

อย่างเลยclientflags ตัวเลือกสามารถเป็นชุดผสมของค่าตัวแปรที่ตรงกับตัวเรียกใช้

  • MYSQL_CLIENT_SSL - ใช้ SSL การ encrypt
  • MYSQL_CLIENT_COMPRESS - ใช้โปรโตคอลการ compress
  • MYSQL_CLIENT_IGNORE_SPACE - อนุญาตให้มีช่องว่างหลังชื่อฟังก์ชัน
  • MYSQL_CLIENT_INTERACTIVE - อนุญาตให้ปิดการติดต่อก่อนหน้าที่เวลาความระยะห่างที่ไม่มีการปฏิบัติการของการติดต่อ

ค่าที่กลับ

ถ้าประสบความสำเร็จ จะกลับค่าตัวแปรที่มีชื่อ 'MySQL persistent connection identifier' หรือ FALSE ถ้ามีข้อผิดพลาด

คำแนะนำและหมายเหตุ

หมายเหตุ:อย่างเลย clientflag ใช้ได้ตั้งแต่ PHP 4.3.0

คำแนะนำ:เพื่อสร้างการเชื่อมต่อที่ไม่มีสภาพคงที่ ใช้ mysql_connect() ฟังก์ชัน。

ตัวอย่าง

<?php
$con = mysql_pconnect("localhost","mysql_user","mysql_pwd");
if (!$con)
  {
  die('Could not connect: ' . mysql_error());
  }
?>